พฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจแล้วอาการโรคหัวใจกำเริบได้......
การรับประทานอาหาร : เรื่องการอาหารเป็นเรื่องที่สำคัญมากเกี่ยวกับหัวใจบางคนไม่คำนึงถึงเรื่องเรื่องที่จะรับประทานอาหารที่ต้องการจะรับประทานอาหารที่มี คอเลสเตอรอลสูง ไขมันสูง ไม่นิยมรับประทานผัก ผลไม้ เพราะผักและผลไม้ล้วนมีสารต้านอนุมูลอิสระ แถมด้วยไฟเบอร์ วิตามิน ที่จำเป็นต่อร่างกาย นอกจากนั้น ผักผลไม้ยังมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งสามารถช่วยควบคุมความดันโลหิตได้ ยกตัวอย่างเช่น ผลไม้รสเปรี้ยว กล้วย มะเขือเทศ มัน ถั่ว แอปเปิล แตงกวา กะหล่ำปลี จากการศึกษาพบว่า สามารถช่วยลดการเกิดหัวใจวายได้สูงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
การพักผ่อนไม่เพียงพอ : ปัจจุบันคนที่มีโอกาสนอนหลับอย่างเพียงพอมีจำนวนน้อยลง จากเหตุผลต่างๆ เช่น ทำงานดึกหรือติดใจกับชีวิตในเวลากลางคืนมากเกินไปหน่อย ซึ่งการพักผ่อนไม่เพียงพอนี้เป็นการทำร้ายอวัยวะสำคัญอย่างหัวใจไปด้วยโดยคนที่นอนหลับไม่เพียงพอนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวายได้ ดังนั้น หากทำได้ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้ 8 ชั่วโมงต่อวัน
ไม่ตรวจสุขภาพร่างกาย : หากคุณดูสุขภาพดีและไม่ปรากฏสัญญาณใดๆ ของโรคหัวใจเลยทำให้คุณชะล่าใจและเมินการตรวจสุขภาพร่างกายประจำปี นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะโรคหัวใจสามารถคร่าชีวิตคุณได้โดยง่าย หลายคนไม่แสดงอาการของโรคมาก่อนเลยด้วยสมาคมโรคหัวใจอเมริกา แนะนำว่าในกลุ่มผู้มีสุขภาพปกติควรจะเริ่มตรวจเช็กหัวใจตั้งแต่อายุ 20 ปี เป็นต้นไป ส่วนการตรวจวัดความดันโลหิตควรควรเช็กทุกๆ 6 เดือน น้ำตาลในเลือดควรเช็กทุกๆ 3 ปี
ความเครียด : ความเครียดในเชิงลบจะมีผลต่อสุขภาพร่างกายในหลายๆด้านจากความตึงเครียดที่เกิดจากเรื่องการทำงานปัญหาเรื่องความครอบครัวหรือเรื่อง ต่างๆ ทำให้เกิดความเครียดตั้งแต่หัวใจวายได้
การดื่มแอลกอฮอล์ : ผู้ที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นเวลานานจะมีส่วนทำให้ปริมาณไขมัน(ไตรกลีเซอไรด์)ในเลือดมีระดับสูงและอาจจะทำลายกล้ามเนื้อหัวใจของท่านด้วยจึงเป็นการลดสมรรถภาพของหัวใจ ในการสูบฉีดเลือดไปยังส่วนอื่นของร่างกายซึ่งทำให้เป็นโรคหัวใจได้ผู้ที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้วก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอาการหัวใจวายฉลับพลันได้
การสูบบุหรี่จัด : ผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเสี่ยงต่อหัวใจวายมากกว่าสองเท่าและมีโอกาสเสียชีวิตจากโรคหัวใจอย่างกะทันหันคิดเป็นสองถึงสี่เท่าของคนไม่สูบบุหรี่ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย